สุดยอดนวัตกรรมกำจัด”ไรฝุ่น” De Hygienique
อาทิตย์ก่อนลูกสาวโบว์ มีอาการน้ำมูกไหลแล้วก็หายใจครืดคราด ส่วนคุณสามีก็จามเอาๆ ทั้งกลางวันกลางคืน โบว์คิดว่าอาการภูมิแพ้ของสามีน่าจะกลับมาอีกแล้ว ช่วงที่ผ่านมาก็มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้วยร่างกายทั้งลูกทั้งสามีอาจได้รับผลกระทบ เลยคิดว่าต้องทำความสะอาดบ้านจริงๆจังๆสักหน่อย
จริงๆโบว์ก็พยายามทำความสะอาดบ้านบ่อยๆนะ เพราะบ้านมีเด็กเล็กจำเป็นต้องรักษาความสะอาดมากหน่อย ไม่อยากให้เค้าเป็นภูมิแพ้ หรือเป็นหวัด แต่ทำเท่าไหร่ฝุ่นก็ไม่หมดสักที อย่างอื่นก็พอทำได้บ่อยๆ แต่ที่นอนจะยกไปซัก ตากแดดก็ไม่ได้เพราะใหญ่และหนักมาก เอาเครื่องดูดฝุ่นธรรมดามาดูดก็ช่วยได้นิดหน่อย แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะกำจัดเชื้อรา ไรฝุ่นและเชื้อโรคอื่นๆที่สะสมอยู่ข้างในได้หรือเปล่า

พอคิดว่าจะทำแล้ว โบว์ก็ตัดสินใจทำให้ดีๆไปเลย หาที่เค้าบริการทำความสะอาดที่นอนโดยเฉพาะเลยดีกว่า De Hygienique เนี่ย โบว์ก็เห็นอยู่บ่อยๆใน Facebook ซึ่งเค้าเป็นมืออาชีพด้านการซานิไทส์ซิ่ง (Sanitizing) และทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน เจ้าหน้าที่ที่มาให้บริการมีความเชี่ยวชาญ มีความรู้เพราะทุกคนต้องได้รับการฝึกอบรมก่อนให้บริการ ที่สำคัญการทำความสะอาดของเค้า ปราศจากสารเคมี 100% ค่ะ เพราะโบว์มีลูกเล็กๆกลัวเรื่องสารเคมีตกค้างมากๆเลยค่ะ
ไรฝุ่น คืออะไร
โบว์ขอพูดถึงไรฝุ่นนิดหนึ่งนะคะ ไรฝุ่น เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ อยู่ปะปนกับฝุ่นตามพื้น พรม ที่นอน หมอน และที่อื่นๆ ชอบอยู่ในที่อับชื้น อบอุ่น ไรฝุ่นจะกินพวกเศษผิวหนังรังแคของคนเรานี่แหละค่ะเป็นอาหาร แล้วก็ถ่ายมูลทิ้งไว้ ซึ่งมูลของไรฝุ่นก็จะฟุ้งจะกระจาย และลอยไปในอากาศเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเรา ทำให้กิดภูมิแพ้ได้

โดยเฉพาะบนที่นอน หมอน ที่เรานอนอยู่ทุกวัน จะมีเศษพวกนี้เยอะ ยิ่งที่นอน ที่เราไม่สามารถยกไปซักหรือตากแดดได้นี่แหละ เป็นอาศัยชั้นดีของไรฝุ่นเลย ที่นอนหนึ่งหลังอาจมีไรฝุ่นเป็นล้านๆตัวเลย นี่เรากำลังนอนกับเจ้าพวกนี้อยู่หรอเนี่ย สยองงงงง 😱
เริ่มทำความสะอาดที่นอน
เอาล่ะ เมื่อรู้ถึงอันตรายของเจ้าไรฝุ่นแล้ว ก็รีบไป กำจัดไรฝุ่น ให้สิ้นซากกันเถอะ ก่อนอื่นก็โทรนัดเพื่อตกลงวันและเวลาที่สะดวกก่อนเลย เมื่อถึงเวลานัดก็รอๆด้วยความตื่นเต้น

ขอโชว์สภาพความเขรอะของที่นอนโบว์นิดหนึ่ง นี่จ้า…สภาพก่อนทำความสะอาด ทั้งดำ ทั้งเปื้อน เป็นคราบเหงื่อไคลเต็มไปหมด นี่เฉพาะที่เราเห็นนะ แล้วที่มองไม่เห็นจะขนาดไหน

มาแล้วววว เค้าใส่ชุดกาวน์มาเลย เคยเห็นแต่ในรูปไม่คิดว่าจะจัดเต็มขนาดนี้จริงๆ แต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบดีนะ


มาถึงก็เตรียมติดตั้งอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด พี่เจ้าหน้าที่เค้าอธิบายว่า อุปกรณ์นี้นำเข้ามาจากเยอรมัน ที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ซึ่งอุปกรณ์นี้จะทำงานหลักๆ 3 ขั้นตอน คือ
- ส่งคลื่นความถี่สูงไปทำให้อนุภาคของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ฝังอยู่ในที่นอนหลุดออก
- แยกสิ่งสกปรกและสิ่งมีชีวิตเล็กๆให้ออกมาด้วยระบบสูญญากาศ
- ฆ่าเชื้อโรค ด้วยรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต

เริ่มแรกทีมงานจะทำการทดสอบดูดฝุ่นก่อน 1 รอบ เพื่อดูปริมาณฝุ่นที่สะสมอยู่บนที่นอนว่าเยอะขนาดไหน โดยจะดูดประมาณ 20-30 วินาที


แท่นแท๊นนนน และนี่คือผลที่ได้จากการทำเทส ย้ำดูดแค่ 20-30 วินาที ฝุ่นเยอะมากกกกกก มีไรฝุ่นกี่ตัวคะในนี้ จะเป็นลม พี่ทีมงานอธิบายว่าแบบนี้คือ ฝุ่นเยอะมาก ถือว่าอันตรายแล้ว (อายจัง)


หลังจากทำเทสเสร็จก็จะเริ่มกระบวนการทำความสะอาด โดยจะทำทั้งสองด้านเลย เพื่อดูดฝุ่นออกให้มากที่สุด เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้สามารถดูดฝุ่น ฆ่าเชื้อโรคได้ลึกลงไปถึง 4-5 นิ้วเลย ที่นอนบ้านโบว์เป็นที่นอนแบบนอนได้ฝั่งเดียว เค้าก็จะพลิกด้านล่างขึ้นมาก่อน แล้วค่อยทำด้านบนทีหลัง

เสร็จแล้วก็จัดการติดตั้งอุปกรณ์ แล้วเปิดเครื่องดูดให้ทั่วเตียง โดยเค้าจะค่อยๆดูดทีละจุด จุดหนึ่งดูดย้ำๆหลายรอบ ละเอียดมาก ถ้าโบว์ทำเองไม่มีทางดูดย้ำๆแบบนี้แน่นอน


ระหว่างที่เค้าทำความสะอาดอยู่เราสามารถอยู่สังเกตการณ์ได้ โบว์ก็อยู่ดูด้วย เพราะอยากเห็นว่าเค้าทำยังไง ก็เลี้ยงลูกไปด้วยนั่งดูไปด้วย ไม่ต้องกลัวเพราะไม่มีฝุ่นฟุ้งกระจาย

หลังจากทำความสะอาดเสร็จ จะมีการฉีดสเปรย์เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่นและเคลือบที่นอนไว้ด้วย สเปรย์กลิ่นส้มอ่อนๆ หอม สดชื่น ชอบมากเลย

จากนั้นพลิกที่นอนมาทำอีกด้านหนึ่งค่ะ ด้านนี้แหละ ฝุ่นน่าจะเยอะมากๆเพราะเป็นด้านที่ใช้ทุกวัน ทำตามขั้นตอนเหมือนเมื่อกี้เลย โบว์ชอบที่เค้าดูดย้ำๆ พยายามให้ฝุ่นออกมาให้มากที่สุด ดูดเยอะๆเลยค่ะจะได้สะอาดๆ 55



ทำความสะอาดเสร็จทั้งสองด้านแล้ว ขั้นตอนต่อมา ทีมงานก็จะดูดทดสอบปริมาณฝุ่นอีกหนึ่งครั้ง เพื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังทำความสะอาด

เห็นอะไรไหมคะ ความแตกต่างระหว่างก่อนทำความสะอาดกับหลังทำความสะอาด แตกต่างกันอย่างชัดเจน ฝุ่นหายไปแล้ววว ดีใจ
ก่อนเก็บพี่ทีมงานก็เอาเครื่องมาดูดผ้าเมื่อกี้อีกที เห็นเลยว่าฝุ่นหายเกลี้ยง เป็นเครื่องที่มีพลังดูดสูงมาก

เสร็จแล้วก็ไม่ลืมที่จะฉีดสเปรย์อีกหนึ่งครั้ง

เปรียบเทียบก่อนและหลังทำความสะอาด


ก่อนกลับพี่ทีมงานถามว่ามีหมอนไหมจะฉีดฆ่าเชื้อโรคให้ หูย…ใจดีมาก โบว์รีบไปเอาหมอนมาด้วยความเขิน หมอนดำมากกก พี่เค้าบอกว่าหมอนไม่ต้องดูดเพราะเราเอาไปซัก ตากแดดได้ ให้ซักแล้วก็เปลี่ยนปลอกหมอนบ่อยๆก็พอค่ะ

เสร็จเรียบร้อยแล้ว สบายใจขึ้นเยอะเลย ทีมงานอธิบายว่าควรทำความสะอาดทุกๆ 4-6 เดือน เพราะฝุ่นจะสะสมอยู่ตลอด ทิ้งไว้นานจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ นอกจากทำความสะอาดที่นอนแล้ว De Hygienique ยังมีบริการทำความสะอาดพรม โซฟา ผ้าม่านด้วยนะคะ โบว์ก็สนใจบริการทำความสะอาดโซฟาอยู่เหมือนกัน ซึ่งไม่ว่าจะที่นอน โซฟา ผ้าม่าน หรือพรมเนี่ยก็จะมีขั้นตอนการทำความสะอาดที่แตกต่างกันออกไป ใช้อุปกรณ์คนละตัว เพื่อให้ความสะอาดได้สะอาดและเหมาะสมที่สุด

สรุป
หลังจากได้ลองทำความสะอาดที่นอน โบว์ประทับใจมากกกกกกกก รู้สึกมั่นใจแล้วก็สบายใจมากขึ้นว่าที่นอนเราสะอาดจริงๆ สิ่งสกปรกที่สะสมมานานหลายปีถูกกำจัดไปแล้ว พนักงานก็บริการดี สุภาพ มีความเป็นมืออาชีพสูง และแนะนำให้ความรู้เพิ่มเติมได้ดีมากๆเลยค่ะ

การทำความสะอาดที่นอนนี้นะคะ โบว์แนะนำเลยว่าควรทำมากๆ โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกเล็กๆแบบโบว์นะ เพราะไม่มีใครอยากให้ลูกเป็นภูมิแพ้หรือมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับปอด ทางเดินหายใจเนอะ แล้วที่นอนเราทำความสะอาดเองไม่ได้ เอาไปตากแดดก็ไม่ได้ การเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นทางเลือกดีที่สุดแล้วค่ะ



โปรโมชั่น
- De Hygienique บริการฟรี ไม่มีค่าเดินทาง สำหรับกทม.และปริมณฑล ต่างจังหวัดมีค่าเดินทางตามระยะทาง
- วันนี้ – เดือนมิถุนายน 62 ทำความสะอาดที่นอน จากปกติ 3,590 บาท เหลือเพียง 1,990 บาท เท่านั้น
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
website : https://www.dh-thailand.com/
Facebook : dh-thailand
LINE : @dh-thailand (มี @ ด้วยนะคะ)

